วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ทำไม"โน้ตบุ๊ก"ต้อง Centrino 2

ถาม: อยากทราบว่า ถ้าจะซื้อโน้ตบุ๊กไว้ใช้งานสักเครื่องตอนนี้ ควรเลือกใช้ซีพียูอะไรดีคะ เพื่อนแนะนำให้เลือกเป็น Centrino 2 (เขียนถูกไหมอ่ะ?) ไปเลย อยากถามว่า มันดีกว่าเดิมอย่างไรคะ? หรือซื้อเป็นเน็ตบุ๊ก เพราะขนาดเล็กกะทัดรัดและมีราคาถูกกว่ามาก ช่วยแนะนำด้วยนะคะตอบ: ก่อนอื่นผมขอแยกประเด็นคำถามออกเป็นสองประเด็นนะครับ ประเด็นแรกคือเรื่องของซีพียู ซึ่งปัจจุบัน Intel Centrino 2 ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากมันได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพให้ดีขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายครอบคลุมความต้องการวันนี้ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การทำงาน และความบันเทิง สิ่งที่คุณจะได้รับจากการเลือกใช้โน้ตบุ๊กที่มีซีพียูเป็น Centrino 2 ก็คือ ความเร็วที่มากกว่าเดิมถึง 50% นั่นหมายความว่า คุณสามารถเปิดโปรแกรมทำงานได้หลายตัวพร้อมกันเช่น การแก้ไขเว็บไซต์ที่ต้องเปิดทั้งโปรแกรมเขียนเว็บ โปรแกรมแก้ไขภาพ และบราวเซอร์ หรือการทำพรีเซนเทชันที่ต้องเปิดไฟล์เอกสาร เพื่อเลือกข้อความที่ต้องใช้ประกอบสไลด์ รวมถึงการแปลงไฟล์วิดีโอ เพื่อแทรกเข้าไปในงานนำเสนอ เป็นต้น ซึ่งการทำหลายงานในลักษณะนี้ เราสามารถเปิดแอพฯที่ต้องใช้ได้เลย ซึ่งช่วยให้สะดวกมาก

นอกจากเรื่องของการทำหลายงานพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว เรื่องของความบันเทิง โดยเฉพาะการเล่นวิดีโอที่ความละเอียดสูง หรือ HD (Hi-Definition) ก็เป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งที่พลาดไม่ได้ เพราะคุณจะได้ดูหนังที่มีรายละเอียดของความคมชัดที่สมจริงมากๆ ส่วนคอเกมยิ่งต้องไม่พลาดโน้ตบุ๊กที่ใช้ซีพียูตัวนี้ เพราะมันได้รับการพัฒนาเรื่องการประมวลผลกราฟิก 3 มิติอีกด้วย เหนืออื่นใด ในกรณีที่คุณต้องนำโน้ตบุ๊กติดตัวไปใช้นอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือพักผ่อน เรื่องของการไร้สายที่แรงขึ้นถึง 5 เท่า และด้วยการออกแบบให้ประหยัดพลังงาน คุณจึงสามารถใช้งานโน้ตบุ๊ก Centrino 2 ได้นานร่วม 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว...ที่สำคัญราคาของโน้ตบุ๊กระดับนี้ก็ไม่ไดสูงเกินไปอีกด้วย (ราคาประมาณตั้งแต่ 3 หมื่นบาทขึ้นไป) ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งปวง ส่วนตัวนายเกาเหลาว่า มันเป็นการลงทุนกับเทคโนโลยีที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว ณ.ตอนนี้

คราวนี้มาดูประเด็นที่สองกันบ้างดีกว่าครับ หากเปรียบเทียบเน็ตบุ๊กกับโน้ตบุ๊กแล้ว มันคนละเรื่องกันเลย แม้จะมีรูปร่างหน้าตามคล้ายกันมากก็ตาม เน็ตบุ๊ก เอาไว้ดูข้อมูล เล่นเน็ต อัพเดตบล็อก และดูวิดีโอได้(แต่ต้องเป็นไฟล์นะครับ เพราะเน็ตบุ๊กไม่มีดีวิดีไดรฟ์) เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะนำมาใช้ทำงานแทนโน้ตบุ๊ก ก็คงต้องบอกว่า มันแทนกันไม่ได้ เพราะงานของโน้ตบุ๊กเป็นเรื่องของการสร้าง และแก้ไขไฟล์ข้อมูลที่ต้องใช้พลังในประมวลผลค่อนข้างสูง ซึ่งรวมถึงการเล่นและแก้ไขไฟล์มัลติมีเดีย พวกไฟล์ภาพยนต์ (ยิ่ง HD ด้วยแล้ว ยิ่งต้องใช้ซีพียูที่แรงมากเป็นพิเศษ) หรือไฟล์เพลง นี่ยังไม่รวมถึงการบันทึกลงบนแผ่นดีวิดี ซึ่งเน็ตบุ๊กทำไม่ได้อยู่แล้ว ในขณะที่โน้ตบุ๊กสามารถเขียนแผ่นพร้อมกับทำงานอื่นๆ ได้อีกต่าหาก ยังไงก็อย่าซื้อผิดวัตถุประสงค์นะครับ ตอบซะยาวเชียว หวังว่า คงอ่านกันจบนะครับ :p

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

การเข้า Safe Mode เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากซอฟต์แวร์

การเข้าสู่ Safe Mode เป็นอีกวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากซอฟต์แวร์ที่เราได้ ติดตั้งลงไป เพราะในโหมดนี้จะข้ามการทำงาน Registry , ไดรเวอร์ของฮาร์ดแวร์และค่าต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ กำหนดไว้ ดังนั้นขั้นตอนการบูตเข้า Safe Mode จึงไม่เสียหายจากการทำงานเหล่านี้ ดังนั้น จึงควรเรียนรู้การใช้งาน Safe Mode ด้วย เพราะจะช่วยแก้ปัญหาในหลายๆ เรื่องได้เป็นอย่างดี หากเครื่องมีปัญหาไม่สามารถบูตเข้าวินโดวส์ได้ จะแก้ปัญหาโดยการเข้าสู่ Safe Mode แล้วเข้าไปแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ตามต้องการ เช่น หากปัญหาที่เกิดจากการติดตั้งไดรเวอร์ ก็ให้เข้า Safe Mode แล้วเข้าไปลบไดรเวอร์ตัวนั้นทิ้งไป หากมีปัญหาจากการติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ก็ให้เข้าไปที่ Add / Remove Programs ใน Safe Mode แล้วคลิกเลือกโปรแกรมที่สร้างปัญหาทิ้งไป ซึ่งการเข้า Safe Mode ก็สามารถทำได้ดังขั้นตอนต่อไปนี้ให้บูตเครื่องขึ้นมาใหม่ จากนั้นกดปุ่ม F8 บนคีย์บอร์ดย้ำ ๆ (หรือกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้) แล้วจะปรากฏเมนูขึ้นมาดังนี้1. Normal2. Logged (\ BOOTLOGE.TXT)3. Safe Mode4. Step-by-step confirmation5. Command prompt only6. Safe modecommand promt onlyให้เลือกที่หัวข้อ 3 Safe Mode เท่านี้เราก็จะสามารถเข้า Safe Mode เพื่อเข้าไปแก้ปัญหาต่างๆ ได้แล้ว

การ Defrag ฮาร์ดดิสก์ เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับการทำงานของระบบ สำหรับ Windows XP

1. ดับเบิ้ลคลิกที่ My Computer คลิกขวาไดร์ฟที่ต้องการทำ Defragment เลือก Properties
2. คลิกที่แท็บ Tools จากนั้นคลิกที่ Defragment Now...
3. คลิกที่ Defragment
4. จากนั้นให้รอ เครื่องจะทำการ Defragment ซึ่งอาจจะใช้เวลานาน
5.เมื่อเครื่อง Defragment เสร็จเครื่องจะแจ้งให้ทราบถ้าต้องการดูรายละเอียดต่าง ๆ ของการ Defragment ให้คลิกที่ View Report ถ้าไม่ต้องการก็ให้คลิกที่ Close

หมายเหตุ• การทำ Defragment ให้ทำการ Disk Cleanup และ Scan Disk ก่อน ถ้าทำไม่ผ่านให้ทำใน Saft Mode

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

MSI เผยตัวเมนบอร์ด X58 สำหรับซีพียูปี 2009

หลายๆ ท่านอาจจะงงๆ ครับว่าปีหน้าเขามีอะไรกันหรือทำไมเมนบอร์ดและเทคโนโลยีใหม่ๆ มันพร้อมที่จะออกมาพร้อมๆ กันหมดไปหมด ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับเนื่องจากในปีหน้าจะมีซีพียูของ Intel รุ่นใหม่ออกมา ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากทั้งด้านโครงสร้าง ความเร็ว และสถาปัตยกรรม โดยหลักๆ ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของขาซีพียูที่มากขึ้นจึงทำให้ต้องมีการเปลี่ยนซ็อกเก็ตใหม่

จากการที่ต้องเปลี่ยนซ็อกเก็ตใหม่นี่เองครับทำให้ Intel ต้องปรับปรุงชิปเซ็ตใหม่ออกมาด้วยเพื่อให้แมตกันกับความเร็วซีพียูที่สูงขึ้น จึงเป็นที่มาของชิปเซ็ต x58 อย่างที่เราจะนำเสนอในข่าวนั่นเอง ซึ่งเจ้า x58 นี้ในปัจจุบันได้เริ่มส่งให้ผู้ผลิตเมนบอร์ดออกไปสักระยะแล้วและก็ได้มีการแอบเผยข้อมูลของแต่ละค่ายออกมาแล้วตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุด…MSI ก็ได้เผยข้อมูลเมนบอร์ดที่ชิป x58 กับเขาบ้าง ซึ่งดูแล้ว สวยดุ ขึ้นกว่าเมนบอร์ดในปัจจุบันมากทีเดียว.
สำหรับเมนบอร์ด x58 ของ MSI รุ่นนี้เขาบอกว่ามันรองรับหน่วยความจำได้มากถึง 24 GB ทีเดียว โดยมันจะทำงานคู่กับหน่วยความจำ DDR3-1666 MHz มีช่องต่อฮาร์ดดิสก์ SATA ให้ 10 ช่อง รองรับการเชื่อมต่อการ์ดจอแบบ SLI พร้อมให้แหล่งจายไฟแบบ 6 เฟส ติดมาด้วยครับ…สุดยอด
จริงๆ

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551

USB 3.0 เร็วทะลุพิกัด!!!


หลังจาก Intel ปล่อยข่าวเกี่ยวกับข้อกำหนดล่าสุดของ USB 3.0 ก็ทำเอาผู้ค้าในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ตื่นเต้นไปตามๆ กัน นายเกาเหลาเองก็อดไม่ได้ที่จะขอมีส่วนร่วมในเรื่องนี้สักหน่อยนะครับ อย่างน้อยได้หยิบมาเล่าสู่กันฟังก็ยังดี

ดูเหมือนจะเป็นของคู่กันไปแล้ว สำหรับการพัฒนาข้อกำหนดใหม่ที่จะต้องมาพร้อมกับชื่อใหม่ด้วย อย่าง USB 3.0 ก็ได้รับการตั้งชื่อว่า “SuperSpeed USB” ซึ่งเป็นจุดขายหลัก เนื่องจาก USB 3.0 สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 10 เท่าของ USB 2.0 หรือประมาณ 5 กิกะบิตต่อวินาที ว้าว!!! เร็วสุดๆ ว่าแต่มันเร็วแค่ไหนนะหรือครับ ก็เรียกได้ว่า มากพอสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลบน DVD หนึ่งแผ่นไปไว้บนสื่ออื่นๆ (ที่เชื่อมต่อด้วยความเร็วนี้) ภายในไม่กี่วินาที ต่อไปการถ่ายโอนข้อมูลลงบนเครื่องเล่น MP3 หรือฮาร์ดดิสก์ภายนอก ตลอดจนการดาวน์โหลดไฟล์จากกล้องถ่ายรูปดิจิตอล ก็จะไม่ต้องรู้สึกถึงคำว่า “รอ” อีกต่อไปแล้ว
ในส่วนของคอนเน็คเตอร์ และซ็อคเก็ต แม้จะดูคล้ายของเดิม และยังคงสามารถใช้งานร่วมกับ USB 2.0 ได้ แต่ซ็อคเก็ตของ USB 3.0 จะมีหน้าสัมผัส (contact) พิเศษเพิ่มขึ้นมาอีก 5 อัน โดยจะอยู่ด้านในถัดจากหน้าสัมผัสของมาตรฐานเดิม ซึ่งเจ้าหน้าสัมผัสที่เพิ่มขึ้นมานี่ล่ะครับ ที่ทำให้ USB 3.0 สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วขึ้นในระดับ SuperSpeed ตามชื่อเรียกของมัน อย่างไรก็ตาม คาดว่า ผู้ใช้จะได้มีโอกาสสัมผัสความเร็วสุดๆ นี้ในปี 2009 ครับ

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ความรู้สึกส่วนตัวต่อวิชาเตรียมฝึกวิชาชีพประสบการณ์ชีวิต

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า

ตอนแรกๆคิดว่าน่าจะเป็นวิชา

ที่เกี่ยวกับเอ่อ..................

สอนการประพฤติปฏิบัติตัวเอง

ต่อสถานที่ทำงานว่าต้องปฏิบัติเช่นไร

อะไรประมาณนี้แต่พอได้เรียนจริงๆ

ไม่เลยมันไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังไว้

เป็นวิชาที่สอนให้เรารู้จักการทำงาน

เป็นกลุ่มซะมากกว่าเริ่มเรียนแรกๆ

โหยให้ทำโครงการอะอีกแล้วหรือ

มีทำโครงการคิดในใจโหยงานเข้าแล้ว

แต่ยังไงก็ต้องทำอะนะ

ถือซะว่าเป็นการฝึกตนเองอะครับ

เรียนครั้งแรกตรวจเครื่องแต่งกาย

เป็นอะไรที่เนียบมากๆ ก็ดีแล้วแหละครับ

เป็นการฝึกให้ นศ.แต่งตัวให้ถูกระเบียบมากขึ้น

ตั้งแต่เรียนวิชานี้มาจะถามว่ามีอะไรดีขึ้นน่ะหรอ

บอกได้เลยครับว่าเยอะมาก

เช่น ได้รู้จักเพื่อนๆมากมายเยอะขึ้น

รู้จักการทำงานแบบเป็นทีม

รู้จักท่านอาจารย์หลายๆท่าน

รู้จักว่าวิชาแต่ละแขนงเป็นอย่างไร

หลากหลายครับ

การนั่งฟังสัมมนาได้ประโยชน์มากๆเลยนะครับ

ท่านวิทยากรได้มาเล่าประสบการณ์บ้าง

ตลกมากๆขำดีครับชอบ ^ ^

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างจะประสบผลสำเร็จ

ได้ด้วยมือของท่านเอง

ประวัติส่วนตัว


ชื่อ-นามสกุล : นายทัชพงษ์ ดำรงโฆษิต
ชื่อเล่น : แอ๊ด
เกิดวันที่ : 29 ตุลาคม พ.ศ. 2531
อายุ : 19
น้ำหนัก : -
ส่วนสูง : -
ภูมิลำเนา : กรุงเทพมหานคร
ที่อยู่ : 172 ถ.ตากสิน27 ต.สำเหร่ อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพมหานคร
ที่อยู่ปัจจุบัน: 172 ถ.ตากสิน27 ต.สำเหร่ อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพมหานคร
เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน : 1-1020-01046-05-4
รหัสักศึกษา : 49132792093
สถานะภาพ : โสด
อีเมลล์ :
ad_dressy@hotmail.com
:
u49132792093@hotmail.com
:
u49132792093@gmail.com
เบอร์โทร : 087 - 5125545
การศึกษาระดับประถมศึกษา : โรงเรียนฤดีศึกษา
การศึกษาระดับมัธยมต้น - ปลาย : โรงเรียนวัดสระเกศ
การศึกษาปัจจุบัน : คณะวิทยาการจัดการ โปรแกรมบริหารธุรกิจ แขนงคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
นิสัย : ร่าเริง อัธยาศัยดี ขำขำ
อาหารโปรด : สุกี้
เพลงที่ชอบ : หนึ่งในล้าน - Sniper
เวลาว่าง : ท่องโลกInternet
งานอดิเรก : ทำงานเป็นพนักงาน DTAC
คติพจน์ : ความสุขเกิดจากการแบ่งปัน

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

108 อวัยวะสาระพัดประโยชน์


หน้าผาก = อวัยวะที่ใช้ประกอบกับแขนเวลามีทุกข์ เช่นนอนเอาแขนก่ายหน้าผาก
ผม = เรียกอีกอย่างว่า "ขนหัว" ใช้แสดงอาการตกใจมาก ๆ เช่น ขนหัวลุก
ตา = อวัยวะที่ใช้ในการมอง จะมีอุณหภูมิสูงมากเมื่อเห็นใครได้ดี
หู = อวัยวะที่ใช้ในการฟัง ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา จึงก่อให้เกิดเรื่องขึ้นบ่อย ๆ
ปาก = อวัยวะที่ใช้พูด ส่วนมากจะอยู่ไม่ตรงกับใจ
คอ =อวัยวะที่เชื่อมระหว่างตัวและหัว เป็นอวัยวะที่คอยหันหาคนอื่น ก้านคอ = อวัยวะที่คอยรับแข้งคนอื่น
ไหล่ = อวัยวะที่คู่กับบ่า เช่นเคียงบ่าเคียงไหล่ มีไว้ให้คนเหงาใจหรือเศร้าใจซบโดยเฉพาะ
บ่า = อวัยวะที่คู่กับไหล่ เช่นเคียงบ่าเคียงไหล่ อาชีพจับกังมีไว้แบกข้าวสาร (ส่วนถนนข้าวสาร จับกังไม่เกี่ยว)
หัวใจ = อวัยวะสูบฉีดเลือดและฟอกเลือดให้กับร่างกาย มีไว้ให้แสดงความรักและเก็บรักไว้
ปอด = อวัยวะที่รับอากาศมาส่งหัวใจ บางครั้งใช้แสดงระดับความกล้าหาญ
หน้าอก = อวัยวะที่รองรับเรื่องหนัก อาทิเรื่องหนักอก (ซึ่งผู้หญิงที่อกเล็กงานนี้คงไม่มีเรื่องหนักอกจริงไหม)
นม = อวัยวะที่บ่งบอกภาระการรับน้ำหนักของอก ผู้หญิงมีไว้บริการนมให้บุตร ผู้ชายถึงมีก็ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ก็ไขว่คว้าอยากได้มาเชยชม...
ศอก = ข้อต่อระหว่างแขนและข้อมือ มีไว้เป็นอาวุธประจำกาย และรองน้ำ สำหรับบรรดาภรรยาน้อย ไม่เป็นที่แนะนำสำหรับสาว ๆ มันอันตราย
มือ = เป็นอวัยวะปลายสุดของแขน มีนิ้วเป็นส่วนประกอบ นิยมใช้เงินยกเห็นกันมากในสภา
กำปั้น = เป็นอวัยวะชิ้นเดียวกับมือ แต่เปลี่ยนรูปเป็นอาวุธ นิยมใช้ตัดสินปัญหา ในกรณีที่ไม่ได้ใช้สมองแก้ปัญหา
ตัว = เป็นชิ้นส่วนใหญ่ของร่างกายให้อวัยวะอื่นได้พักพิง จะลืมกันมากเวลาได้ดี
สะดือ = เป็นอวัยวะที่ใช้เชื่อมต่อกับแม่ยามอยู่ในครรภ์ เมื่อโตขึ้นใช้วัดระดับความสุภาพ ถ้าต่ำกว่านี้ทะลึ่ง!!
ขาอ่อน = เป็นอวัยวะเชื่อมต่อจากสะโพกลงมา นิยมใช้ในการประกวด เพราะเห็นได้เด่นชัดกว่าสมอง
หัวเข่า = ข้อต่อระหว่างขาและหน้าแข้ง เป็นอาวุธประจำกาย ผู้หญิงใช้โจมตี .จุดอ่อนผู้ชาย และบางคนใช้ซับน้ำตาเวลาเศร้า นิยมมากสำหรับคนหลงรักชาวบ้าน
แข้ง = อวัยวะที่ถัดมาจากเข่า นิยมใช้พาดก้านคอ...
น่อง = อวัยวะที่อยู่ด้านหลังของแข้ง ใช้วัดระดับความแข็งแรงของขา และวัดความกร้านชีวิต ขนหน้าแข้ง = อวัยวะที่วัดระดับของฐานะ ยิ่งรวยมากขนหน้าแข้งจะร่วงน้อย
เท้า = เป็นอวัยวะที่ใช้ยืน บางครั้งใช้ก่ายหน้าผาก หรือเป็นอวัยวะที่ใช้ผลัก ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่า "ยัน"

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

กับคำว่ารัก

ความรักนั้น มันก็เหมือนกับ " ผีเสื้อ "
ยิ่งคุณวิ่งเข้าหามันเท่าไหร่ มันก็จะห่างคุณออกไปเท่านั้น
แต่ถ้าคุณปล่อยมันไป มันจะเข้ามาหาคุณเองแหล่ะ..
ถ้าคุณไม่คาดหวังกับมันมาก

ความรักสามารถทำให้คุณมีความสุข
แต่มักจะทำให้คุณเจ็บปวดแต่ความรักจะเป็นสิ่งที่พิเศษ
ถ้าคุณได้ให้มันกับใครสักคนที่คู่ควร
อย่ารีบร้อน ค่อยๆ เลือก เลือกคนดีที่สุด
จงจำไว้ว่า "หากรักแล้วจงรู้จักที่จะรอ
และการมีเซ็กซ์ไม่ใช่บทพิสูจน์ของความรัก"

สำหรับ ใครที่..... " ไม่ใคร่โสด "
เค้าบอกว่า... ความรักไม่ไช่ การเป็นคนดีพร้อม สมบูรณ์ ของใคร
แต่รักคือการหาใครสักคนที่ช่วยให้คุณเป็นคนดีที่สุดเท่าที่คุณดีได้

สำหรับ ใครที่เป็น....... " คนเจ้าชู้ "
อย่าพูดคำว่า " รัก " เลย ถ้าคุณไม่ได้ใส่ใจกับความหมายนั้น
อย่าพูดถึงความรู้สึก ถ้ายังไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น
อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตเค้าเลย ถ้าคุณจะทำให้เค้าเสียใจ
อย่าไปมองลึกถึงดวงตา ถ้าทุกคำพูดของคุณล้วนโกหกทั้งเพ
สิ่งที่โหดร้ายที่สุดที่ผู้ชายคนหนึ่งพึงทำได้
คือทำให้ผู้หญิงหลงรักแล้วไม่ใส่ใจใยดี
ในทางกลับกับผู้หญิงบางคนก็โหดร้ายได้เหมือนกัน......

สำหรับ ใครที่...... " อกหัก "การอกหัก มันยืนยาวตราบเท่าที่คุณ
ต้องการให้มันอยู่กับคุณและบาดความรู้สึกคุณได้เจ็บลึกเท่าที่คุณยอมให้บาดที่สำคัญก็คือว่า
มันไม่ใช่จะพ้นจากสภาวะอกหักยังไง
แต่มันอยู่ที่ว่า....เราเรียนรู้จากมัน ได้แค่ไหน ต่างหาก ......

สำหรับ ใคร ๆ ที่.... " ไร้เดียงสาในรัก
"จะรักได้อย่างไร : รักแต่อย่าลุ่มหลง คงเส้นคงวาแต่ไม่ดื้อรั้น
แบ่งปัน และ ไม่เอาเปรียบพยายามเข้าใจกันและกัน มากกว่าที่จะเรียกร้อง
หากต้องเจ็บ ก็เจ็บ แต่อย่าเอาความเจ็บนั้น ติดตัวเสมอไป

สำหรับ ใครที่...... " มีคนหลงรักอยู่
"เค้าบอกว่า...มันเจ็บปวดที่เห็นคนที่เรารัก มีความสุขกับคนอื่น
แต่มันจะเจ็บปวดยิ่งกว่า
ถ้าคนที่เรารัก ไม่มีความสุขเมื่ออยู่กับเรา

สำหรับ ใครที่..... " กลัวต่อการสารภาพรัก "
ความรักมันเจ็บปวด ถ้าคุณต้องไปบอกเลิกกับใครสักคน
แต่มันจะเจ็บยิ่งกว่า ถ้ามีคนมาบอกเลิกกับคุณ
แต่มันจะเจ็บที่สุด หากคนที่คุณรัก ไม่เคยได้รู้เลยว่า คุณรักเค้า

สำหรับ ใคร ๆ ที่ยัง......." คบ ๆ กันอยู่ "
เค้าบอกว่า..สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิตก็คือ การที่เราพบ และ รักใครสักคน
จนสุดท้ายพบว่ามันไม่ใช่.....และคุณเสียเวลาไปเป็นปี ๆ
ให้กับคนที่คนที่ไม่คู่ควรถ้าเค้าคนนั้นของคุณ
ไม่ใช่คนที่ใช่เลยของคุณตอนนี้
แล้วล่ะก็จะมาเสียเวลา เป็นปีๆ กับเค้าทำไม ปล่อยไปเถิด.....